วันอังคารที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2554

กองทัพเรือจัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจบรรเทาสาธารณภัยทางน้ำ เตรียมรับสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

    จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่หลายจังหวัดอยู่ในขั้นวิกฤตและเริ่มเข้าสู่พื้นที่ติดต่อกรุงเทพมหานครและปริมณฑลขยายเป็นวงกว้าง  ดังนั้น เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล กองทัพเรือจึงได้จัดตั้ง “หน่วยเฉพาะกิจบรรเทาสาธารณภัยทางน้ำ” (ฉก.บภ.ทางน้ำ) ขึ้น เพื่อช่วยเหลือและอพยพผู้ประสบภัยในบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองสาขาต่าง ๆ  ที่เชื่อมกับแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่จังหวัดปทุมธานีถึงจังหวัดสมุทรปราการ โดย กองเรือลำน้ำ กองเรือยุทธการ เป็นหน่วยรับผิดชอบหลัก มี พลเรือตรี ธานี ผุดผาด  ผู้บัญชาการกองเรือลำน้ำ กองเรือยุทธการ เป็นผู้บัญชาการหน่วยเฉพาะกิจบรรเทาสาธารณภัยทางน้ำ
    หน่วยเฉพาะกิจบรรเทาสาธารณภัยทางน้ำ เป็นจุดศูนย์รวมกำลังพลยุทโธปกรณ์ และเรือประเภทต่าง ๆ ในการดำเนินการช่วยเหลือและอพยพผู้ประสบภัยทางน้ำ เพื่อนำส่งต่อให้แก่หน่วยเฉพาะกิจบรรเทาสาธารณภัยทางบก (ฉก.บภ.ทางบก) มี ฐานทัพเรือกรุงเทพ เป็นหน่วยรับผิดชอบหลัก และจุดศูนย์รวมกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และพาหนะประเภทต่าง ๆ ในการรับผู้ประสบภัยจากทางน้ำส่งไปยังพื้นที่ที่ปลอดภัยต่อไป
   นอกจากนี้ ยังมีหน่วยเฉพาะกิจซ่อมบำรุงกองทัพเรือ (ฉก.ซบ.ทร.) มีหน้าที่ในการซ่อมแซมและปรับปรุงแนวป้องกันน้ำท่วมตลอดแนวป้องกันในพื้นที่ที่กองทัพเรือรับผิดชอบ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและตามคลองต่าง ๆ ไหลเข้ามาในพื้นที่ของกองทัพเรือและการซ่อมกู้ฉุกเฉินให้กับ ฉก.บภ.ทางน้ำ และ ฉก.บภ.ทางบก โดยมี กรมช่างโยธาธิการทหารเรือ เป็นหน่วยรับผิดชอบหลัก ร่วมกับ กรมอู่ทหารเรือ และกรมการขนส่งทหารเรือ
   ทั้งนี้ หน่วยงานราชการและประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล สามารถร้องขอความช่วยเหลือได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕ ๓๓๑๕, ๐ ๒๔๗๕๓๓๑๖, ๐ ๒๔๑๒ ๖๙๖๔ หมายเลขโทรสาร ๐ ๒๔๗๕ ๓๓๑๔ หรือหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ ๐๘๐ ๘๐๘ ๐๔๘๘ และ ๐๘๑ ๘๓๕ ๕๒๗๓
(ที่มา : กองเรือลำน้ำกองเรือยุทธการ)
 

เมื่อวันที่ 10 ต.ค. พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมที่จ.พระนครศรีอยุธยา ยังคงวิกฤติ ล่าสุดกองทัพบกได้ส่งชุดบรรเทาสาธารณภัยลอยน้ำจากกรมการทหารช่างพร้อมเรือยางติดเครื่องยนต์ 19 ลำ และรถบรรทุกขนาด 10 ตัน เดินทางเข้าช่วยเหลืออพยพประชาชนที่ไม่สามารถอาศัยอยู่ในพื้นที่ รวมทั้งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย และเข้าเสริมการช่วยแจกจ่ายอาหารและน้ำในเขต อ.เมือง มหาราช และบางปะหัน อย่างต่อเนื่อง โดยชุดบรรเทาสาธารณภัยลอยน้ำได้จัดทำแพสำเร็จรูป ขนาด 100 ตารางเมตร นำไปลอยบริการประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมสูง ณ หน้าที่ว่าการ อ.บางปะหัน และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคบางปะหัน ซึ่งแพสำเร็จรูปดังกล่าวจะเป็นจุดศูนย์กลางนำอาหารไปแจกจ่ายให้กับประชาชน ที่ยังอาศัยอยู่ในบ้าน ขณะเดียวกันจะใช้เป็นท่าเทียบเรือเชื่อมต่อการเดินทางของประชาชน จากพื้นที่น้ำลึกไปยังพื้นที่น้ำตื้น และใช้เป็นจุดเปลี่ยนเส้นทางของประชาชนจากเรือเป็นการใช้รถยนต์บรรทุกของทหาร นอกจากนี้ได้มีการจัดตั้งหน่วยแพทย์ไว้บนแพสำเร็จรูป เพื่อตรวจรักษาประชาชนที่เจ็บป่วยด้วย

การดูแลสถานการณ์น้ำท่วมในเขตเกาะเมือง ขณะนี้กำลังทหารของกองทัพบก จากศูนย์การทหารม้า กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2รอ.) หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศกองทัพบก กรมการทหารช่าง ได้สนธิกำลังกันระดมเรือและรถยนต์บรรทุกออกบริการรับ-ส่ง และอพยพประชาชนในพื้นที่เกาะเมืองไปยังศูนย์อพยพหน้าศาลากลางจังหวัดอย่างต่อเนื่อง ส่วนการเตรียมพื้นที่ในค่ายทหารเป็นพื้นที่รองรับการอพยพของประชาชนจาก จ.พระนครศรีอยุธยานั้น ขณะนี้กองทัพบกได้เตรียมพื้นที่หน่วยทหารในจังหวัดสระบุรี ได้แก่ ค่ายอดิศร กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ กรมทหารม้าที่ 5 รักษาพระองค์ ไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งด้านอาคารสถานที่ อาหาร การแพทย์ ซึ่งสามารถรองรับผู้อพยพได้ประมาณ 4,000 คน โดยกำลังรอการประสานและตัดสินใจอพยพจากทาง จ.พระนครศรีอยุธยา

วันเดียวกัน พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ ได้สั่งการให้หน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือจัดกำลังพลพร้อมยุทโธปกรณ์ เร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยใน จ.พระนครศรีอยุธยา อย่างเร่งด่วน ล่าสุดได้สั่งให้จัดหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ประกอบด้วย เฮลิคอปเตอร์จำนวน 2 ลำ เรือจู่โจมลำน้ำติดเครื่องท้าย 4 ลำ เรือยาง 4 ลำ เจ็ตสกี 4 ลำ เข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยในพื้นที่ อ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกับได้สั่งการให้จัดกำลังพลจากกองพันต่อสู้อากาศยานที่ 11 กรมต่อสู้อากาศยานที่ 1 หน่วยบัญชาการต่อสู้อกาศยานและรักษาฝั่ง จำนวน 138 นาย กำลังพลจากกรมก่อสร้างและพัฒนา ชุดประดาน้ำจากกรมสรรพาวุธทหารเรือ รวมถึงเรือปฏิบัติการความเรือสูงของหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ จำนวน 2 ลำ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ และเรือยาง สนับสนุนชุดเคลื่อนที่เร็วในการเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

นอกจากนั้น ได้สั่งให้กรมอู่ทหารเรือเร่งสร้างแพลอยน้ำ (Pantoon) เพื่อนำมาใช้ในพื้นที่ประสบอุทกภัย และเร่งสร้างเครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 3 ชุด เพื่อสนับสนุนการผลักดันน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาให้ระบายน้ำ เพื่อระบายน้ำไหลลงสู่ทะเลได้เร็วขึ้น ตลอดจนจัดหาเรือท้องแบนอีก 100 ลำ เพื่อนำไปสนับสนุนการขนย้ายและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ด้านกรมสรรพาวุธทหารเรือ ได้จัดชุดประดาน้ำพร้อมอุปกรณ์เร่งกู้แท่นพิมพ์แบบอะไหล่รถยนต์กว่า 30 แท่น ของบริษัท ทีเอส เทค ในนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร อ.นครหลวง ที่จมอยู่ใต้กระแสน้ำ ซึ่งขณะนี้ทำการกู้แท่นพิมพ์มาได้แล้ว 6 แท่น นอกจากนั้นทางหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินและหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและ รักษาฝั่ง ยังได้จัดกำลังอีกหน่วยละ 1 กองร้อยเพื่อสนับสนุนกรุงเทพมหานครในการบรรจุกระสอบทรายเพื่อป้องกันน้ำท่วม ในพื้นที่กรุงเทพฝั่งตะวันตก รวมถึงพื้นที่ อ.ศาลายา จ.นครปฐม

ทั้งนี้ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ กำหนดจุดรับผิดชอบในพื้นที่อ.เมืองพระนครศรีอยุธยา โดยจัดตั้งชุดเคลื่อนที่เร็วส่วนหน้า โดยมี น.อ.อารักษ์ แก้วเอี่ยม รองผู้บัญชาการกองเรือลำน้ำ กองเรือยุทธการ เป็นหัวหน้าชุด ชุดเคลื่อนที่เร็วฯ ที่จัดตั้งขึ้น ตั้งอยู่ที่บริเวณศาลากลาง จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อเป็นจุดศูนย์กลางในการกระจายความช่วยเหลือในพื้นที่ต่อไป

น.อ.วิพันธุ์ ชมะโชติ รองเลขานุการกองทัพเรือ ในฐานะรองโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า สำหรับประชาชนที่มีความต้องการที่จะบริจาคสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบ อุทกภัย ทางกองทัพเรือได้เปิดศูนย์รับบริจาค เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวบรวมน้ำใจจากคนไทย ที่มีจิตศรัทธาที่ต้องการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์พี่น้องคนไทยที่กำลังเดือด ร้อน สามารถร่วมบริจาคเงินได้ที่ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) สาขากองบัญชาการกองทัพเรือ บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 115 – 2 -14322 – 6 ชื่อบัญชี ศูนย์รับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และภัยหนาวของกองทัพเรือ รวมทั้งขอเชิญร่วมบริจาคสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่กรมกิจการ พลเรือนทหารเรือ (ตรงข้ามพระบรมมหาราชวัง) ถนนมหาราช เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร หมายเลขโทรศัพท์ 0 2475 4821 ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ และที่ฐานทัพเรือกรุงเทพ (ตรงข้ามวัดชิโนรส) ถนนอิสรภาพ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ติดต่อได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 0 2475 5269 และ Call Center 1691 ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ.

ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ เร่งระดมสรรพกำลัง ทั้งกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม อย่างต่อเนื่อง พล.ร.ต.ประพฤติพร อักษรมัติ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือน ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ เปิดเผยว่า กองทัพเรือได้กำลังพล และยุทโธปกรณ์ ประกอบด้วย เฮลิคอปเตอร์ 2 เครื่อง เรือท้องแบน 54 ลำ เรือยาง 14 ลำ รถบรรทุกขนาดต่างๆ และกำลังพล เพื่อเร่งเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา โดยประกอบเป็นชุดเคลื่อนที่เร็ว จากฐานทัพเรือกรุงเทพ กองเรือลำน้ำ กองเรือยุทธการ กรมก่อสร้างและพัฒนาฐานทัพเรือสัตหีบ และจากหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ประกอบด้วย เฮลิคอปเตอร์ 2 เครื่อง เรือจู่โจมลำน้ำเครื่องยนต์ติดท้าย 6 ลำ เรือยาง 4 ลำ เจ็ตสกี 4 ลำ เรือช่วยเหลือผู้ประสบภัย 2 ลำ รถบรรทุก 4 คัน และกำลังพลอีกกว่า 100 นาย โดยยังสามารถระดมเพิ่มเติมได้อีกหากมีความจำเป็น พร้อมกับให้หน่วยต่างๆของกองทัพเรือ เตรียมความพร้อมของกำลังพล เพื่อสนับสนุนการแก้ปัญหาในพื้นที่ต่างๆ อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ ได้กำหนดจุดรับผิดชอบในพื้นที่ อ.เมือง โดยจัดตั้งเป็นชุดเคลื่อนที่เร็วส่วนล่วงหน้า ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ ที่บริเวณศาลากลางจังหวัด โดยมี น.อ.อารักษ์ แก้วเอี่ยม รองผู้บัญชาการกองเรือลำน้ำ กองเรือยุทธการ เป็นหัวหน้าชุด เพื่อเป็นศูนย์ประสานงานกับจังหวัด ในการกระจายความช่วยเหลือไปตามพื้นที่ต่างๆ ที่ได้รับมอบหมาย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น